อาการ 1. มีอาการท้องอืด แน่นท้อง ลำไส้ไม่ค่อยเคลื่อนไหว 2. ปวดท้องอย่างรุนแรง บริเวณลิ้นปี่ หรือใต้ชาย
โครงซ้าย หรือท้องส่วนบนขวา อาจปวดทะลุไปหลัง
3. คลื่นไส้ อาเจียน แต่ไม่ค่อยมีน้ำย่อยออกมา
4. กระสับกระส่าย มีไข้ต่ำ ชีพจรเบาเร็ว
5. มักเกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารไขมันสูง และหลังดื่มสุรา บางคนมีอาการเพียงเล็กน้อย
ตับอ่อนมีหน้าที่สร้างน้ำย่อยสำหรับย่อยสลายไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตในอาหาร โดยจะออกฤทธิ์เมื่อถูกหลั่งเข้าสู่สำไส้เล็ก ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่น้ำย่อยเหล่านี้ออกฤทธิ์ภายในตับอ่อน จึงเท่ากับเป็นการย่อยเนื้อตับอ่อนเอง ทำให้เกิดพยาธิสภาพและแสดงอาการของตับอ่อนอักเสบ
สาเหตุ มีหลายประการด้วยกัน เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเกิดจากอัลกอฮอล์ หรือเกิดจากการที่นิ่วในท่อน้ำดีไปอุดรูเปิดของท่อตับอ่อนในระยะเวลาหนึ่ง ทำให้เกิดการอักเสบของตับอ่อน มีการย่อยเนื้อเยื่อตนเอง แต่ส่วนใหญ่เกิดจากการดื่มสุราจัดและโรคทางเดินน้ำดี ฯลฯ
การรักษา แพทย์ตรวจร่างกายแล้วต้องเจาะเลือด หากพบเอนไซม์อมายเลสสูง เม็ดเลือดขาวสูง อาจต้องเจาะน้ำในช่องท้องมาตรวจ ช่วงนี้แพทย์จะให้งดน้ำและอาหาร และใส่สายยางไปในกระเพาะอาหาร เพื่อดูดเอาลม และน้ำย่อยในกระเพาะอาหารออกทางเครื่องดูดสุญญากาศ เพื่อลดอาการท้องอืด แน่น และอาการคลื่นไส้ อาเจียน ให้ยาปฏิชีวนะในรายที่มีการติดเชื้อร่วมด้วย ให้ยาออกฤทธิ์ต้านการหลั่งกรดของกระเพาะ และต่อต้านการขับน้ำย่อยของตับอ่อน ส่วนการผ่าตัดจะทำในกรณีที่เนื้อตับอ่อนถูกทำลายมาก และไม่อาจรักษาได้
เมื่อรักษาตับอ่อนเฉียบพลันให้หายแล้วจะไม่มีรอยโรค แต่หากผู้ป่วยปล่อยทิ้งไว้จะกลายเป็นตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง จะทำให้ตับอ่อนเสียสภาพไป จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ปวดท้องหลังมื้ออาหารเพราะขาดเอนไซม์ย่อยไขมัน และสลับกับอาการท้องเสียเรื้อรัง เนื่องจากตับอ่อนถูกทำลายอย่างมาก ทำให้ย่อยและดูดซึมไขมันไม่ได้ ควรรีบไปพบแพทย์ ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นมะเร็งตับอ่อนได้