สารเสริมชีวนะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสำคัญต่อสุขภาพภายในลำไส้มนุษย์ เป็นกลุ่มแบคทีเรียที่มีคุณประ
โยชน์ ช่วยต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้แล็กโตบาซิลลัส อะซิโดฟิลัส (Lactobacillus acidophilus) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า อะซิโดฟิลัส เป็นหนึ่งในแบคทีเรียที่เป็นมิตรที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของคนเรา มีจำหน่ายในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นเม็ดแคปซูล ซึ่งได้มาจากการเพาะเชื้ออะซิโดฟิลัสในถั่วเหลือง นมวัว หรือยีสต์ มีประสิทธิภาพเหนือกว่าที่พบในโยเกิร์ต
แพทย์จำนวนมากนิยมสั่งอะซิโดฟิลัสให้คนไข้ร่วมกับยาปฏิชีวะ เนื่องจากยาปฏิชีวนะสามารถฆ่าแบคทีเรียชนิดดีซึ่งอาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ ส่งผลให้เกิดอาการท้องร่วง หรือเกิดการลุกลามของเชื้อราแคนดิด้า ซึ่งเป็นเชื้อราที่สามารถเจริญเติบโตในลำไส้ ช่องคลอด ปอด ช่องปาก (ฝ้าขาวในปาก) บนเล็บและใต้เล็บ เชื้อราเหล่านี้มักหายไปภายในไม่กี่วันหลังจากการรับประทานอะซิโดฟิลัสในปริมาณสูง
การรับประทานอะซิโดฟิลัสเป็นประจำช่วยให้ลำไส้มีสุขอนามัยที่ดี ช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นของลมหายใจซึ่งเกิดจากลำไส้ (อันเป็นกลิ่นที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยน้ำยาบ้วนปากหรือสเปรย์ดับกลิ่น) รักษาอาการท้องผูก ผายลมเหม็น และยังช่วยในการรักษาสิวและโรคผิวหนังอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งมักจะอ่อนแอลงเมื่อเราอายุมากขึ้น มีประโยชน์สำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อราในช่องคลอด เพราะช่องคลอดแห้งอันเนื่องมาจากฮอร์โมนเอสโทรเจนลดลง
ควรจดจำไว้ว่า แล็กโทส คาร์โบไฮเดตรเชิงซ้อน เพกทิน วิตามินซี และอาหารที่มีเนื้อหยาบย่อยยาก (เส้นใยอาหารและธัญพืช) ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ประเด็นนี้มีความสำคัญมาก เพราะแบคทีเรียที่ดีเหล่านี้สามารถตายภายในห้าวันหากมันไม่ได้รับอาหารคือกรดแล็กติกหรือแล็กโทสในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
หากคุณจะเลือกซื้อโยเกิร์ต พยายามเลือกซื้อแบบที่มีอินนูลิน อินนูลิน จัดเป็นพรีไบโอติก หมายความว่า มันได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าช่วยส่งเสริมการทำงานของแบคทีเรียทีดี (เช่น ไบฟิโดแบคทีเรีย) และยังช่วยป้องกันการเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคในทางเดินอาหาร อินนูลิน พบได้ในผลไม้และผักหลายชนิด เช่น อาร์ติโช้ก หน่อไม้ฝรั่ง หัวหอม ลูกเกด และกล้วย จัดเป็นแหล่งที่ดีของเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ ผู้ที่เป็นเบาหวานก็สามารถรับประทานอินนูลินได้ เพราะมันไม่เพิ่มระดับกลูโคสหรืออินซูลินในเลือด และยังช่วยเพิ่มการดูดซึมของแคลเซียม อีกทั้งช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคจากอาหาร เช่น เชื้อ อี. โคไล (E. coli) ซาลโมเนลลา สแตฟไฟโลคอกคัส และลิสทีเรีย
ในการรับประทานเสริมอาหาร แนะนำให้รับประทานอะซิโดฟิลัสชนิดแคปซูล 2 เม็ด หรือแบบน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ วันละสามเวลา ครึ่งชั่วโมงก่อนหรือหลังอาหาร หรืออะซิโดฟิลัสแบบผงหนึ่งซอง ละลายในน้ำผลไม้ 6 ออนซ์ วันละ 1-2 เวลา เนื่องจากกรดในกระเพาะจะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณรับประทานอาหารคุณจึงจะได้รับประโยชน์จากสารเสริมชีวนะในการเพิ่มประชากรแบคทีเรียที่ดีมากกว่า หากรับประทานระหว่างมื้ออาหาร ช่วงที่ท้องว่าง
ที่มา: วิตามินไบเบิล