อาการ เมื่อแรกเป็นจะยังไม่แสดงอาการ ต่อมาจะมีอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืดเฟ้อ แน่นหน้าอกชาย
โครงด้านขวา ปวดท้องตลอดเวลา ท้องบวม หายใจลำบาก ต่อมาจะมีน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อาจคลำพบก้อนที่ชายโครงขวาหรือบริเวณลิ้นปี่ ผอมลงอย่างมาก ดีซ่าน ตาเหลือง ตัวเหลือง อาการรุนแรงขึ้นทุกวัน
ตับเป็นอวัยวะใหญ่ที่สุดของร่างกาย ตำแหน่งขอบตับอยู่ชายโครงขวาแบ่งเป็น 2 กลีบ คือ กลีบขวา และซ้าย ตับมีหน้าที่สะสมสารอาหาร เช่น น้ำตาล โปรตีน ไขมัน วิตามิน เป็นต้น ไว้ให้ร่างกายนำไปใช้ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่เหมือนโรงงานกำจัดของเสีย ตับยังทำหน้าที่สร้างไข่ขาว ซึ่งหน้าที่รักษาสมดุลของน้ำในเซลล์และเนื้อเยื่อ เมื่อตับทำงานไม่ได้จึงเกิดอาการผิดปกติมากมาย
โรคมะเร็งตับ มีสาเหตุมาจาก
- สารอัลฟลาท็อกซินในถั่ว หัวหอม กระเทียม ปลาแห้ง
- ยาฮอร์โมนเพศชาย ที่ใช้รักษาโรคโลหิตจาง หรือการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- สารหนู สารพิษต่างๆ
- ผู้ที่ชอบดื่มสุรา เครื่องดื่มอัลกอฮอล์
- การเป็นไวรัสตับอักเสบชนิด-บี หรือชนิด-ซี อย่างเรื้อรัง
- การรับประทานอาหารที่มีไนโตรซามีน เช่น กุ้งเจ่า ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาส้ม หมูส้ม เป็นต้น แบบดิบๆ แต่ถ้าปรุงให้สุกแล้วสามารถทำลายไนโตรซามีนออกไปได้
- พยาธิใบไม้ในตับ ทำให้ท่อน้ำดีอุดตัน เป็นมะเร็งท่อน้ำดีได้ และเป็นมะเร็งตับได้
การรักษา โรคนี้วินิจฉัยจากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย เจาะเลือดหาสารโปรตีนจากเซลล์มะเร็ง คือ CEA และ alpha-fetoprotein (AFP) ดูการทำงานของตับ การอัลตราซาวนด์ การสแกนตับ การเจาะชิ้นเนื้อตับเพื่อตรวจหาเซลล์มะเร็ง
การรักษาขึ้นกับชนิดของมะเร็งตับ และขึ้นกับว่าโรคเป็นมากหรือยัง
- การผ่าตัด ถ้าเป็นก้อนมะเร็งขนาดเล็ก ใช้วิธีการผ่าตัด และที่สำคัญตับต้องไม่มีโรคอื่น
- การฉีดสารบางอย่างให้อุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงมะเร็ง ทำให้มะเร็งขาดเลือด เป็นการรักษาในภาวะที่ผู้ป่วยไม่เหมาะในการผ่าตัด
- การให้เคมีบำบัด เนื่องจากโรคมะเร็งตับมักจะดื้อต่อยาเคมี จึงใช้ได้ เพียงบรรเทาอาการ จัดว่าไม่ค่อยได้ผล
- การฉายรังสี ไม่ค่อยได้ผล เนื่องจากตับที่ดีจะได้รับผลเสียจากรังสีไปด้วย ใช้ได้เพียงบรรเทาอาการ
ส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นมะเร็งตับมีโอกาสหายน้อยมาก เพราะกว่าจะมีอาการผิดปกติให้ทราบก็เป็นระยะที่โรคดำเนินไปมากแล้ว