ข้อเท็จจริง ละลายในน้ำ เป็นอีกหนึ่งในตระกูลวิตามินบีรวม รู้จักกันทั้งในชื่อ วิตามินบีซี (Bc) หรือวิตามินเอ็ม
มีหน่วยวัดเป็นไมโครกรัม (มคก.)
มีความสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง
ช่วยในกระบวนการเผาผลาญของโปรตีน
ขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวัน คือ 180 - 200 มคก. สำหรับหญิงตั้งครรภ์ควรเพิ่มขนาดเป็นสองเท่า และหญิงให้นมบุตรควรรับประทาน 280 มคก. ในช่วงหกเดือนแรก และ 260 มคก. ในช่วงหกเดือนหลัง (เด็กในครรภ์จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคท่อระบบประสาทผิดปกติ เช่น Spina Bifida (โรคความผิดปกติที่ส่วนโค้งของกระดูกสันหลังซึ่งเป็นมาแต่กำเนิด - บ.ก.) ลดลงอย่างชัดเจน หากมารดาได้รับประทานโฟลิกเป็นเท่าตัวของขนาดที่แนะนำในช่วงระหว่างที่มีการปฏิสนธิและในช่วงแรกของการตั้งครรภ์)
มีส่วนสำคัญในการสร้างกรดนิวคลีอิก (กรดไรโบนิวคลีอิกและกรดดีออกซิไรโบนิวคลีอิก)
มีความจำเป็นต่อการแบ่งตัวของเซลล์
ร่างกายต้องการในกระบวนการใช้น้ำตาลและกรดแอมิโน
ถูกทำลายได้ง่ายหากเก็บรักษาด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสมในอุณหภูมิห้องเป็นเวลานานเกินไป
วิตามินนี้ดีต่อร่างกายคุณอย่างไร
ลดระดับกรดแอมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือดและลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ
ป้องกันการพิการแต่กำเนิดในทารก
ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอด
ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้และอาหารเป็นพิษ
ช่วยให้ผิวพรรณแลดูสุขภาพดี
ออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวดได้
อาจช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลงได้ หากรับประทานร่วมกับกรดแพนโทเทนิกและพาบา (PABA)
ช่วยให้เจริญอาหาร หากคุณกำลังอ่อนเพลีย
อาจช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
ช่วยรักษาภาวะซีดหรือโลหิตจาง
โรคจากการขาดวิตามิน
โลหิตจางแบบแมโครไซติก หรือแบบเม็ดเลือดแดงขนาดใหญ่ผิดปกติ
แหล่งจากธรรมชาติที่ดีที่สุด
ผักที่มีใบสีเขียวเข้ม แครอท ทอร์ทูลายีสต์ (ยีสต์สกัดชนิดหนึ่ง) ตับ ไข่แดง แคนตาลูป อาร์ติโช้ก เอพริคอต ฟักทอง อะโวคาโด ถั่ว แป้งไรย์ แบบสีเข้มที่ไม่ผ่านการขัดสี
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
โดยทั่วไปมีจำหน่ายในขนาด 400 มคก. และ 800 มคก. ส่วนขนาด 1 มก. (1,000 มคก.) ในสหรัฐอเมริกาต้องซื้อโดยใช้ใบสั่งแพทย์
บางครั้งในวิตามินบีรวมจะมีกรดโฟลิกอยู่ 400 มคก. แต่โดยมากจะมีเพียง 100 มคก. (โปรดอ่านฉลาก)
ขนาดที่รับประทานโดยทั่วไปคือ 400 มคก. ไปจนถึง 5 มก. ต่อวัน
พยายามเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีทั้งโฟเลตและวิตามินบี 12 อยู่ด้วยกัน
อาการเป็นพิษและสัญญาณเตือนว่ารับประทานมากไป
ยังไม่พบอาการเป็นพิษ แต่บางคนอาจมีอาการผื่นแพ้ได้บ้าง
หากร่างกายมีกรดโฟลิกมากไป อาจทำให้โรคโลหิตจางจากการขาดวิตามินบี 12 ไม่แสดงอาการออกมา
ศัตรู
น้ำ ยาในกลุ่มซัลฟา แสงแดด ฮอร์โมนเอสโทรเจน กระบวนการแปรรูปอาหาร (โดยเฉพาะการต้ม) ความร้อน
คำแนะนำส่วนตัว
หากคุณเป็นผู้หญิง คุณควรรับประทานกรดโฟลิกและวิตามินบี 6 ให้เพียงพอ กรดโฟลิกเพียง 400 มคก. และวิตามินบี 6 เพียง 2 - 10 มก. สามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายเฉียบพลันได้ถึงร้อยละ 42!
หากคุณเป็นนักดื่มตัวยง ขอแนะนำให้รับประทานกรดโฟลิกเพิ่มขึ้น
การรับประทานวิตามินซีในปริมาณสูง เพิ่มการขับกรดโฟลิกออกจากร่างกาย ดังนั้น ผู้ที่รับประทานวิตามินซีมากกว่า 2 กรัมต่อวัน ควรรับประทานกรดโฟลิกเพิ่มควบคู่ไปด้วย
หากคุณรับประทานยากันชักไดแลนติน ฮอร์โมนเอสโทรเจน ซัลโฟนาไมด์ ฟีโนบาร์บิทอล หรือแอสไพริน ผมแนะนำให้รับประทานกรดโฟลิกเพิ่ม
ผมพบว่าหลายคนที่รับประทานกรดโฟลิก 1 - 5 มก. ทุกวันมีปัญหานี้เช่นกัน ควรปรึกษาแพทย์ที่มีความรู้ด้านโภชนาการเกี่ยวกับเรื่องนี้ดู
การรับประทานกรดโฟลิกในปริมาณสูงอาจมีผลกระทบต่อยาต้านมะเร็งบางกลุ่ม
หากคุณกำลังป่วย หรือร่างกายคุณกำลังต่อสู้กับโรคใดๆ อยู่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อต่อสู้กับโรคของคุณควรจะมีกรดโฟลิกรวมอยู่ด้วย เพราะหากร่างกายคุณขาดกรดโฟลิกไป แอนติบอดีหรือสารภูมิคุ้มกันของคุณก็จะขาดตกบกพร่องเช่นกัน
การรับประทานกรดโฟลิกในปริมาณสูง อาจทำให้คนไข้โรคลมชักซึ่งรับประทานยาฟีไนโทอินอยู่เกิดอาการชักขึ้นได้
เว็บไซต์นี้ให้ข้อมูลความรู้และคำปรึกษาปัญหาสุขภาพต่างๆ เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง









Founder :