JA Cpanel
  •  

DooHealthy

RSSเว็บไซต์นี้ให้ข้อมูลความรู้และคำปรึกษาปัญหาสุขภาพต่างๆ เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง

โรคจอประสาทตาเสื่อม

จอประสาทตาเสื่อมหรือเรียกว่า ความเสื่อมของดวงตาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น (AMD/ age-related macular degeneration) เป็น

 

สาเหตุสำคัญของการตาบอด โรคนี้เกิดจากการเสื่อมในบริเวณสำคัญของจอรับภาพ ที่เรียกว่า มาคูลา ลูเตีย

อาการ อาจแสดงอาการแตกต่างกันในคนไข้แต่ละคน และยากต่อการที่คนไข้ที่จะสังเกตความผิดปกติในการมองเห็นด้วยตนเองตั้งแต่ระยะเริ่มแรก โดยเฉพาะในคนที่ตาผิดปกติข้างเดียว เช่น อาการคือ มองตรงกลางภาพไม่ชัด ส่วนกลางของภาพที่มองขาดหายไป หรือมืดดำไป หรือภาพที่เห็นดูบิดเบี้ยวไป แต่มองเห็นบริเวณด้านข้างภาพหรือรอบนอกได้ไปจนกว่าจะบอด ยกเว้นแต่ว่าจะเกิดโรคแบบเปียก ซึ่งมีอาการรุนแรงและการดำเนินโรคเร็ว ซึ่งต้องรีบพบแพทย์ทันที

ผู้ป่วยอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดตาเล็กน้อย ปวดมากขึ้นเมื่อกลอกลูกตา มีอาการทางสมองร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ วิงเวียน สูญเสียการทรงตัว หากมีอาการน่าสงสัยดังกล่าว สามารถทดสอบด้วยตนเองด้วย การหากระดาษที่ขีดเส้นเป็นตารางดังในภาพและทำจุดตรงกลาง (หากไม่แน่ใจควรให้คนตาปกติดีทำให้)

  1. ปิดตาทีละข้าง จ้องมองที่จุดดำตรงกลาง
  2. ดูความคมชัดของเส้นตรง ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
  3. ดูขนาดของช่องสี่เหลี่ยมว่าเท่ากันหรือบิดเบี้ยว

โรคจอประสาทตาเสื่อม มีลักษณะ 2 รูปแบบ คือ

  1. แบบแห้ง แบบนี้พบมาก จะมีการเสื่อมสลายและบางลงของจุดกลางรับภาพจอประสาทตาไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น อาการจะปรากฎขึ้นอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป
  2. แบบเปียก พบน้อยราย แบบนี้จะมีลักษณะการเกิดรุนแรงและรวดเร็ว เกิดจากมีเส้นเลือดผิดปกติงอกอยู่ใต้จอประสาทตา และมีการรั่วซึมของเลือดและสารเหลวจากเส้นเลือดเหล่านี้ ทำให้จุดกลางรับภาพบวม ทำให้เห็นภาพตรงกลางบิดเบี้ยว และตาบอดในที่สุด

 

โรคจอประสาทตาเสื่อม

 

สาเหตุ เชื่อว่าเกิดจากการขาดสารอาหารที่สำคัญต่อดวงตา คือ คาโรทีนอยด์ เช่น ลูทีน และซีแซนทีน เป็นต้น ซึ่งมีมากในอาหารจำพวกข้าวโพดและผักใบเขียว

ปัจจัยเสี่ยง

  • อายุมากกว่า 60 ปี
  • ใช้สายตามาก
  • คนที่มีสายตาสั้นมากๆ
  • โรคติดเชื้อบางอย่าง
  • พันธุกรรม ประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้
  • การสูบบุหรี่
  • ความดันโลหิตสูง ไขมันโคเลสเตอรอลในเลือดสูง

การรักษา เนื่องจากการพบโรคตั้งแต่ระยะแรกเริ่มเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดเพราะว่าจอประสาทตาที่เสื่อมไปแล้ว มีแต่จะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่มีความเสี่ยงควรพบจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อการตรวจหาโรคในระยะเริ่มแรกที่ยังไม่แสดงอาการ การรักษาในปัจจุบันทำได้เพียงหยุดหรือชะลอการเสื่อมของจอประสาทตาให้ช้าที่สุด มีการทดลองนวดตาเพื่อรักษา ปรากฎว่าใช้ได้ผลดีพอสมควรและมีการใช้สารอาหารเพื่อชะลอโรคไม่ให้เป็นมากขึ้นได้

 

อาการจอประสาทตาเสื่อม

 

สำหรับโรคจอประสาทตาเสื่อมแบบเปียก สามารถรักษาได้ด้วยยา (Lucentis Macugen หรือ Avastin) เพื่อทำลายหรือหยุดการสร้างเส้นเลือดดังกล่าว หรือโดยใช้แสงเลเซอร์ สำหรับคนทั่วไปและผู้ที่เป็นแล้วจึงควรป้องกันโดยการรับประทานอาหารให้ครบหมู่ มีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะลูทีนและซีแซนทีน กลูตาไทโอน คาโรทีนอยด์ สังกะสี วิตามินเอ และต้องรู้จักถนอมดวงตา เช่น ไม่ใช้สายตามากเกินไป หลีกเลี่ยงการโดนลม ใช้แว่นกันแดด ระวังไม่ให้เกิดโรคของตา

Julius

นาฬิกาดีไซน์ความหลากหลายให้เข้ากับสไตล์ของคุณ More...

G-SHOCK

ต้นแบบเฉพาะตัวกับตัวเครื่องคุณภาพความทนทาน More...

Edifice

Edifice นาฬิกาลูกผู้ชาย ทรงอิทธิพลด้วยดีไซน์ที่เร้าใจ More...

Consultant



↑ เพิ่มเพื่อนจากทาง Line เพื่อปรึกษาปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้ที่นี่...

Latest Posts

Map