JA Cpanel
  •  

DooHealthy

RSSเว็บไซต์นี้ให้ข้อมูลความรู้และคำปรึกษาปัญหาสุขภาพต่างๆ เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (โรคเมนียส์)

น้ำในหูไม่เท่ากันมีอาการ 3 อย่างด้วยกัน ได้แก่ 1.เวียนศีรษะรู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวกำลังหมุน 2.หูอื้อ 3.มีเสียงแว่วในหู

 

เหมือนเสียงจิ้งหรีดร้อง

การวินิจฉัยโรคนี้จะต้องตรวจพบอาการทั้งหูอื้อ เวียนศีรษะ และมีเสียงดังในหูด้วย หากพบอาการเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งยังไม่ถือว่าเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน นอกจากนี้ยังมีการได้ยินเสียงลดลง คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะอย่างรุนแรง อาการหูอื้อเวียนศีณะ และมีเสียงดังในหูเป็นอยู่นานกว่า อาจนานถึง 1-2 ชั่วโมงแล้วอาการหายไป อาการเวียนศีรษะจะเป็นๆ หายๆ บางราย 2-3 ปี มีอาการหรือบางคนเป็นเกือบทุกเดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความดันที่เพิ่มในท่อครึ่งวงกลม และปัจจัยกระตุ้นต่างๆ

สาเหตุ ของโรคเมเนียส์หรือเรียกว่า โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เกิดจากความดันของเหลวในรูหูสูงขึ้นจนทำลายประสาทในรูหูที่เกี่ยวกับการทรงตัวเซลล์ประสาทส่วนหนึ่งที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการได้ยินในบริเวณใกล้เคียงก็ถูกทำลายด้วย เป็นเหตุให้มีอาการหูตึงร่วมด้วย

ส่วนมากเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เช่น อาจมีภาวะภูมิแพ้ของหูชั้นในบางคนอาจเกิดหลังได้รับบาดเจ็บ หรือเป็นโรคซิฟิลิส หลายคนปรากฎอาการเมื่อมีความเครียด เป็นหวัด ต่อมทอนซิลอักเสบ สุขภาพอ่อนแอ ขาดการพักผ่อน คนทำงานเป็นกะ นอนไม่เป็นเวลา หรือนอนน้อย นอนไม่หลับ หรือมีโรคหูชั้นในอักเสบ หรือโรคหูน้ำหนวก หรือมีโรคไมเกรนซึ่งมักเป็นกับคนอายุน้อยกว่า 50 ปี

เมื่อเกิดพยาธิสภาพขึ้น น้ำในหูชั้นในไม่สามารถดูดซึมกลับได้ก็เกิดภาวะน้ำหรือของเหลวในหูส่วนนี้คั่งอยู่ภายในมาก การไหลเวียนไม่สะดวกทำให้เกิดภาวะน้ำในหูไม่เท่ากันซึ่งปกติต้องเท่ากัน แรงดันที่เพิ่มขึ้นในหูชั้นในจะขัดขวางการทำงานของกระแสประสาทที่เกี่ยวกับการได้ยินและการทรงตัวทำให้สูญเสียการได้ยินและสมดุลเกิดอาการเวียนศีรษะ เมื่อแรงดันมากขึ้นผู้ป่วยจะรู้สึกตึงๆ ในหูข้างที่ผิดปกติ ส่วนมากจะเป็นกับหูเพียงข้างเดียว ประมาณร้อยละ 10-15 ที่เป็นกับหูทั้งสองข้าง โรคนี้พบได้น้อย มักพบในผู้ายอายุ 40-60 ปี แต่ก็อาจพบในคนหนุ่มคนสาวได้

 

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน

 

การรักษา ขณะมีอาการเวียนศีรษะรุนแรง ควรนอนพักให้ศีรษะอยู่นิ่งๆ ให้นานที่สุด เพราะการขยับศีรษะจะทำให้อาการเป็นมากขึ้น และทานยาแก้อาเจียนหรือยาลดอาการเวียนศีรษะ หากเป็นบ่อยๆ ควรพบแพทย์ อาจต้องใช้เครื่องมือตรวจการได้ยิน อาจเอกซเรย์ ตรวจเลือดหาวีดีอาร์แอล หรือตรวจพิเศษอื่นๆ เพื่อแยกโรคและค้นหาสาเหตุ และรักษาตามอาการ เช่น ใช้ยาแก้วิงเวียน ยาแก้อาเจียน ยาคลายกังวล เป็นต้น อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อให้หายขาด ผู้ป่วยบางคนอาจต้องใช้เครื่องมือช่วยฟังที่ปล่อยเสียงระดับต่ำกลบเสียงแว่วในหู

ผู้ป่วยควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ไม่เครียด ถนอมหูด้วยไม่รับฟังเสียงที่ดังมากๆ ด้วย ขณะมีอาการผู้ป่วยควรงดอาหารเค็มจัด หวานจัด และดื่มน้ำให้น้อยลง (แต่วันปติให้ดื่มน้ำตามปกติ) เพื่อลดปริมาณของเหลวในหูชั้นใน อาจช่วยให้เกิดอาการห่างขึ้น ในทุกวันควรงดกาแฟ สุรา เครื่องดื่มอัลกอฮอล์ และบุหรี่ พักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะเวลานอนหลับ อาจมีเสียงรบกวนในหูมากจนทำให้นอนไม่หลับได้ ข้อแนะนำคือ เปิดเพลงเบาๆ ขณะนอนเพื่อกลบเสียงที่รบกวนในหู

การบริหารร่างกายในส่วนศีรษะและการทรงตัว ทำให้สมองสามารถปรับตัวได้รวดเร็วขึ้น และการฝึกโยคะซึ่งช่วยในเรื่องของการทรงตัวและการสร้างสมาธิ สร้างความสงบในจิตใจได้ดี พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น สถานที่ที่มีเสียงดัง แสงแดดจ้า หรืออากาศร้อนอบอ้าว เป็นต้น จัดสถานที่ ทั้งที่บ้านและที่ทำงานให้ปลอดภัย ทางเดินที่ต้องเดินเป็นประจำ ควรปราศจากของมีคมหรือตกแตกง่าย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการเวียนศีรษะกะทันหัน

Julius

นาฬิกาดีไซน์ความหลากหลายให้เข้ากับสไตล์ของคุณ More...

G-SHOCK

ต้นแบบเฉพาะตัวกับตัวเครื่องคุณภาพความทนทาน More...

Edifice

Edifice นาฬิกาลูกผู้ชาย ทรงอิทธิพลด้วยดีไซน์ที่เร้าใจ More...

Consultant



↑ เพิ่มเพื่อนจากทาง Line เพื่อปรึกษาปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้ที่นี่...

Latest Posts

Map

You are here: บทความสุขภาพ โรคและการดูแล โรคที่ไม่ติดต่อ โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (โรคเมนียส์)