อาการ เริ่มแรกจะปวดแสบร้อนท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ตอนท้องว่าง พอรับประทานอาหารแล้วหายปวด
ไปเอง แต่แผลอักเสบยังคงอยู่ ทำให้ปวดท้องบ่อย ปวดทุกวัน บางคนอาจมีคลื่นไส้ มีท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อยด้วย
สาเหตุ
- การระคายเคืองกระเพาะอาหาร จากอาหารที่รับประทาน อย่างเช่น สุรา กาแฟเข้มๆ อาหารรสจัดจะระคายเคืองกระเพาะอาหาร
- มีความเครียดสูง ไปกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย
- รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา น้ำย่อยจะหลั่งเป็นเวลา เมื่อไม่มีอาหารในท้องจึงไปย่อยผนังกระเพาะอาหาร
- มีเชื้อแบคทีเรียฮีลิโคแบคเตอร์ ไพรูไล อาศัยอยู่ในกระเพาะอาหาร
- ทานยาที่ระคายเคืองกระเพาะอาหารเป็นประจำ เช่น แอสไพริน เป็นต้น ยาในกลุ่มแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์
การรักษา ควรพบแพทย์ โดยทั่วไปจะยังไม่มีการส่องกล้องตรวจหาเชื้อ ต่อเมื่อรักษาด้วยยาลดกรด และให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วอาการไม่ดีขึ้น จึงส่องกล้องตรวจหาเชื้อเอชไพรูไล หากพบจึงให้ทานยาปฏิชีวนะ
- เริ่มแรกผู้ป่วยจะได้ทานยาลดกรด หรือยาเคลือบกระเพาะอาหาร และให้เลือกรับประทานอาหารรสอ่อน อาหารเลว ดื่มนม ทานแค่พอท้องอิ่ม ไม่ทานมาก ให้งดบุหรี่ สุรา กาแฟ ของหมักดอง น้ำอัดลม และอาหารรสจัด ซึ่งจะระคายเคืองกระเพาะอาหาร และปล่อยวางความเครียดทั้งหมด
- เมื่ออาการปวดท้องหายไปจึงเริ่มรับประทานอาหารแข็ง ส่วนสิ่งที่ทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองงดไปตลอดได้จะเป็นการดีที่สุด ทั้งนี้ควรระวังให้รับประทานอาหารและทานยาตรงเวลา จะช่วยลดระดับกรดในกระเพาะให้อยู่ในสภาพพอเหมาะ
- ผู้ป่วยที่อาการรุนแรง หากควบคุมอาหารไม่ดี อาจทำให้กระเพาะอาหารมีแผลลึก และมีเลือดออก จะทำให้อุจจาระมีสีดำคล้ำ และถ้ามีเลือดออกในกระเพาะอาหารมาก อาจอาเจียนเป็นเลือด แพทย์จะใช้การฉายเอกซเรย์เมื่อกลืนแบเรียม หรือใช้กล้องส่องภายในกระเพาะอาหารและลำไส้ หากแผลใหญ่มากอาจต้องผ่าตัด