คนส่วนมากมักรับเอาวิธีการที่เรียกว่า "all or nothing approach" คือเมื่อฝึกก็จะฝึกหนัก เมื่อไม่ฝึกก็ไม่ทำ
อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องความแข็งแรงของร่างกาย ซึ่งการทำเช่นนี้ ผลลัพธ์ที่ท่านได้ก็คือ 100% หรือเป็นศูนย์ ปัญหาของวิธีนี้คือ ทำให้เราไม่ได้เติมเต็มจิตใจ และไม่ได้เพิ่มพูนสมรรถนะของกล้ามเนื้อ ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลเป็นที่พึงพอใจ ท่านจึงจำเป็นต้องผนวกการฝึกอย่างมีคุณภาพเข้ากับการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพในทุกๆ ด้านของชีวิตให้สมดุลกัน
ให้ท่านคิดว่าการพักผ่อนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งของโปรแกรมการสร้างเสริมสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย ซึ่งทำได้โดยการที่ท่านหยุดพักช่วงจากการออกกำลังกาย แต่ยังคงทำบางสิ่งบางอย่างที่ท่านรู้สึกสนุก และให้ประโยชน์แก่ร่างกายของท่าน เช่น เล่นกอล์ฟ เดินเล่นหรือเล่นเทนนิส ท่านสามารถทำการกำหนดการพักผ่อนประจำสัปดาห์เมื่อท่านรู้สึกว่าท่านต้องการพักผ่อน หากท่านวางแผนว่าจะใช้เวลา 3 วันฝึกหนักเกี่ยวกับการฝึกแรงโดยใช้แรงต้านและการฝึกสมรรถนะของหัวใจภายในหนึ่งสัปดาห์ คือ วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ท่านก็สามารถสร้างความสมดุลให้กับการฝึกโดยการทำกิจกรรมที่เป็นการพักแบบเคลื่อนที่ (active rest) เช่น เล่นกอล์ฟในวันอังคารและเดินเร็วในวันพฤหัส
การพักแบบอยู่กับที่ (passive rest) ก็เป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพด้วยเช่นกัน การพักแบบอยู่กับที่ (passive rest) ก็เป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพด้วยเช่นกัน การพักแบบอยู่กับที่ (passive rest) อาจรวมถึงการใช้ห้องอบไอน้ำ เซาว์น่า หรือถ้าจะให้ดี อาจเป็นการนวดตัวตามสปาเพื่อสุขภาพก็ได้ การพักผ่อนทั้งแบบการพักแบบเคลื่อนที่ (active rest) และ การพักแบบอยู่นิ่ง (passive rest) จะสามารถช่วยสร้างความกระชุ่มกระชวยให้แก่ร่างกายและจิตใจของท่าน ประโยชน์ทางร่างกายคือ ร่างกายของท่านสามารถสร้างเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อขึ้นใหม่ รวมทั้งเซลล์และโครงสร้างต่างๆ ที่สำคัญของร่างกายที่ก่อให้เกิดพลังงานเพื่อทำให้สามารถรับมือกับการฝึกหนักที่กำลังจะเริ่มขึ้นใหม่ กิจกรรมในรูปแบบนี้ทำให้จิตใจของท่านต้องการเวลาใช้ชีวิตและสนุกสนานกับสิ่งที่ทำให้ท่านแข็งแรงขึ้นและมีความสุขยิ่งขึ้น
ในโลกที่ความสงบสุขในชีวิตมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว มีความต้องการและเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด การพักผ่อนเพื่อเติมพลังให้แก่ร่างกายและจิตใจจะช่วยให้ท่านได้เปรียบในทุกสิ่งที่ท่านทำอยู่