DooHealthy

หลายปีมาแล้วที่ผมได้ดูโทรทัศน์พบเรื่องดีๆ เรื่องหนึ่งที่อยากเอามาแชร์ผู้อ่าน เป็นเรื่องของ Juan Mann

ชายชาวออสเตรเลียที่ไปอาศัยที่ลอนดอนเป็นเวลานานเมื่อเขากลับมาที่บ้านเกิดขณะที่เห็นผู้คนมาสวมกอดกันที่สนามบิน เขากลับต้องยืนอย่างโดดเดี่ยวไม่มีใครมารับเหมือนนักท่องเที่ยวต่างถิ่นในบ้านเกิดตัวเอง ด้วยความรู้สึกว้าเหว่นั้นเขาไปหาป้ายกระดานมาแล้วเขียน "FREE HUGS (กอดฟรี)" เขาเดินไปตามท้องถนนเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอหญิงชราคนหนึ่งเดินเข้ามากอด และนี่คือจุดเริ่มต้นของ FREE HUGS CAMPAIGN ที่โด่งดังและเผยแพร่ไปยังหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย (มียอดคนดูกว่า 70 ล้านคนใน youtube.com)

การกอดมีความสำคัญอย่างไร ทำไมเราจึงรู้สึกดีกับการกอด เรื่องนี้สามารถอธิบายได้ตามหลักจิตวิทยาครับ ย้อนไปตั้งแต่เมื่อแรกคลอดเด็กทารกจะมีสัญชาตญาณในการเข้าหาวัตถุที่นิ่มและอบอุ่น สัญชาตญาณนี้มีไว้เพื่อให้มนุษย์รอดพ้นจากอันตรายและเติบโตได้ สิ่งที่ใกล้ตัวมากที่สุดในตอนนั้นคือ "นมแม่" เมื่อเด็กทารกได้ดื่มนมและมีความอบอุ่นจากแม่เด็กก็จะตอบสนองโดยการให้ความอบอุ่นตอบแทนกลายเป็นกอดแรกในชีวิต การกอดจึงเป็นการสื่อสารอันดับแรกของมนุษย์และช่วยให้รู้ว่า "ฉันสบายดีและเธอ (แม่) ก็สบายดีด้วย"

ในทางจิตวิทยาให้ความหมายของการกอดว่าเป็นการสร้าง "อารมณ์ผูกพัน (Attachment)" ซึ่งมีความสำคัญมากใน 3 ขวบปีแรก นักวิจัยหลายท่านเชื่อว่าการกอดเป็นการสื่อสารของเซลล์มนุษย์เมื่อสัมผัสและกันระหว่างผิวหนัง ในเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถสื่อสารเป็นคำพูดได้ การกอดจึงเป็นการแสดงความรักที่ดีที่สุด สำหรับในเด็กที่ไม่ค่อยได้รับการกอดมากเช่น เด็กกำพร้าหรือเด็กที่ไม่ได้รับนมแม่ เมื่อติดตามต่อไปในอนาคตพบว่าเด็กจะมีปัญหาในการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นและนำไปสู่ปัญหาเกเร ทะเลาะวิวาทรวมถึงติดยาเสพติด ความจริงทั้งหมดนี้จึงขัดกับความเชื่อของพ่อแม่บางคนที่คิดว่าเด็ก 3 ขวบปีแรกยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากจึงไม่ต้องดูแลใกล้ชิดมากก็ได้

สำหรับในวัฒนธรรมไทยเราการกอดอาจเป็นการแสดงออกที่แตกต่างจากพื้นฐานสังคม สังเกตได้ว่าคนไทยจะมีระยะห่างที่พอสมควรเพื่อไม่ให้ลุกล้ำอาณาเขตส่วนตัว รูปการกอดที่เราเห็นกันส่วนใหญ่จึงเหมือนเป็นการกอดคอมากกว่ากอดตัว (ลองไป search ดูรูปคุณอภิสิทธิ์กอดคุณเนวินดูครับ) เมื่อเราไม่ได้มีการสื่อสารทางกายมากเท่าใด เราจึงไม่ค่อยกล้าที่จะแสดงออกความคิดทางคำพูดตามมาก็เลยกลายเป็นนิสัยขี้อายของคนไทยมาเรื่อยๆ

สุดท้ายนี้ผมไม่ได้ต้องการให้คุณผู้อ่านออกไปกอดคนตามท้องถนนหรือศูนย์การค้าตาม FREE HUGS CAMPAIGN ของเมืองนอก แต่อยากให้เริ่มจากการกอดคนที่บ้านก่อนครับ บางคนอาจเขินๆ แต่ผมเชื่อว่าการกอดเป็นการส่งความรักโดยที่เราไม่ต้องพูดหรือทำอะไรมากไปกว่านี้ครับ

อ้างอิง : นิตยสาร P&B