สัญญาณแห่งความชราจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะด้วยเทคโนโลยีเอจล็อค ของ นู สกิน อีกขั้นตอน
ของการพัฒนาที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง นู สกิน และนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ เทคโนโลยี เอจล็อค จะเป็นการปฏิวัติศาสตร์แห่งการต่อต้านความชราครั้งสำคัญ และด้วยสิทธิบัตรที่มีคุณสมบัติเฉพาะ ในการจัดการกับต้นกำเนิดของริ้วรอย หรือ เออาร์ซูเปอร์มาร์คเกอร์ (arSuperMarkers) ที่มีผลต่อความอ่อนเยาว์ของผิวคุณ และด้วยเทคโนโลยี เอจล็อค ของ นู สกิน จะสามารถบ่งชี้ได้ว่ายีนส์ประเภทใดที่มีผลต่อความอ่อนเยาว์ของผิว ซึ่งกลุ่มยีนส์เหล่านี้ หรือเที่เรียกว่า กลุ่มยีนส์แห่งความอ่อนเยาว์ - Youth Gene Cluster - arSuperMarkers โดยเทคโนโลยี เอจล็อค จะช่วยปรับรูปแบบการทำงานของกลุ่มยีนส์แห่งความอ่อนยาว์ให้มีประสิทธิภาพที่สมดุล
เอจล็อค เจนเทิล คลีนส์ แอนด์ โทน
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพร้อมปรับสภาพผิวในขั้นตอนเดียว ด้วยคุณค่าจากผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มและชุ่มชื้นขึ้น อีกทั้งยังช่วยเตรียมผิวในการรับคุณค่าการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
เอจล็อค ฟิวเจอร์ เซรั่ม
เซรั่มเข้มข้น ที่มอบคุณค่าแห่งการบำรุงช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์เพิ่มขึ้น พร้อมขัดขวางกระบวนการทำลายโครงสร้างผิว ช่วยให้ผิวคืนสภาพกลับสู่ความอ่อนเยาว์ดูกระจ่างใส
เอจล็อค เรเดียนซ์ เดย์ เอสพีเอฟ 22
มอยซ์เจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบาพร้อมสารปกป้องจากแสงแดด ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีที่เป็นสาเหตุของความหมองคล้ำ และสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย เหมาะสำหรับการใช้ก่อนแต่งหน้า
เอจล็อจ ทรานส์ฟอร์มมิ่ง ไนท์
สร้างสมดุลในการทำงานระหว่างโครงสร้างผิวและกระบวนฟื้นฟูสภาพผิวตามธรรมชาติในช่วงเวลาพักผ่อน เพื่อริ้วรอยดูลดเลือนลง และรูขุมขนดูกระชับขึ้น
พิสูจน์ความแตกต่างด้วยผลลัพธ์ จากผู้ทดลองใช้ เอจล็อค ฟิวเจอร์ เซรั่ม พบว่า ริ้วรอยที่เคยมีลดเลือนลงจนสังเกตได้ รวมถึง ความเปลี่ยนแปลงของผิวที่ดีขึ้นทั้ง 8 ประการ
วีดีโอ เอจล็อค ทรานส์ฟอร์เมชั่น
ถ้าเราสามารถหยุดความอ่อนเยาว์คงความเป็นหนุ่มเป็นสาวได้เหมือนนาฬิกาจับเวลา ก็คงดีไม่น้อยแต่ในชีวิตจริงไม่เป็นเช่นนั้น ผิวพรรณ และระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานเหมือนเข็มยาวที่เดินไปเรื่อยๆ ผิวพรรณที่ดูสดใส เมื่อวัยแรกสาวก็ร่วงโรยตามกาลเวลา หนำซ้ำหากดูแลรักษาไม่ดี ผิวจะเสื่อมสภาพ ดูแก่ก่อนวัยอันควรได้ง่ายๆ และจากประเด็นดังกล่าวทำให้แพทย์ผิวหนังหลายท่านพยายามหาคำตอบเพื่อล็อกความร่วงโรยคงความอ่อนเยาว์ให้ผิวคุณ
เมื่อเร็วๆ นี้ Health Plus ได้มีโอกาสเข้าร่วมพูดคุยกับสองนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง มร.เกล็นน์ เชนี่ย์ และมิส เค.ซี. ฮอลลี่ ผู้เปิดประเด็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของยีนแห่งความอ่อนเยาว์ จนได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ ฉบับนี้เลยถือโอกาสอัพเดตเทรนด์ใหม่ให้สาว 30 ได้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ก่อนที่เวลาจะพรากความอ่อนเยาว์ เราไปมากกว่านี้
สัญญาณความร่วงโรยแห่งวัย
เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่เราต้องการคือคงความสดใส ดูอ่อนเยาว์ ทั้งภายในและภายนอก การคงความอ่อนเยาว์จากภายนอก คือผิวพรรณที่ปราศจากริ้วรอยก่อนวัย สัมผัสเรียบเนียน ดูเปล่งปลั่ง ส่วนภายใน คือความรู้สึกสดชื่อกระปี้กระเปร่า มีพละกำลังทั้งร่างกายและสมอง พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น คือร่างกายไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างที่ตั้งใจไว้ สัญญาณแห่งความร่วงโรยแห่งวัยที่สังเกตได้ คือ อาการเฉื่อยชา เซื่องซึม หงอยเหงา สูญเสียการควบคุมที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ การแสดงออกของยีนก็จะเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลต่อความรู้สึกอ่อนเยาว์ของร่างกาย ส่วนในด้านของสัญญาณแห่งความร่วงโรยของผิวนั้น ก็ได้แ่ก่ ริ้วรอย โครงสร้างผิวอ่อนแอ ความสม่ำเสมอกันของสีผิว ความชุ่มชื้นของผิวลดลง สภาพผิวไม่เรียบเนียนกระจ่างใส และรูขุมขนกว้างขึ้น
ยีนแห่งความอ่อนเยาว์
ทุกคนคงเคยสงสัยว่า ทำไมคนที่อยู่ในช่วงอายุหรือวัยเดียวกันแต่กลับมีริ้วรอยหรือสัญญาณแห่งความแก่ชราไม่เท่ากัน นี่เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาการทำงานของยีนในร่างกายมนุษย์ที่มีผลต่อความเสื่อมชรา ซึ่งไม่ได้ศึกษาเพียงแค่ 1-2 ยีน แต่ศึกษาละเอียดลึกซึ้งทั้งกลุ่มยืน จนสามารถระบุการทำงานของยีนแต่ละตัวได้ และพบว่าการทำงานของยีนในร่างกายของแต่ละคนมีการแสดงออก (Expression) แตกต่างกัน หากเปรียบเทียบกลุ่มยีนกับวงออเครสต้า ถึงแม้แต่ละวงจะบรรเลงเพลงเดียวกันแต่ย่อมมีความไพเราะแตกต่างกัน เนื่องจากยีนแต่ละตัวจะทำหน้าที่ของตนเช่นเดียวกับหน้าที่ของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นในวง หากเครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียวในวงเกิดปัญหาย่อมส่งผลให้การบรรเลงเพลง ขาดความไพเราะ เปรียบเหมือนกับความเสื่อมชราของยีนตัวใดตัวหนึ่งย่อมมีผลต่อความร่วงโรยของผิวพรรณได้ด้วยเช่นกัน
ปัจจัยที่ส่งผลร้ายต่อการทำงานของยีน
ปัจจัยที่เป็นตัวเร่งให้ยีนทำงานผิดปกติส่วนหนึ่งเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล โดยไลฟ์สไตล์ที่ส่งผลกระทบต่อความร่วงโรยของผิวอย่างร้ายแรง นั่นคือ การสูบบุหรี่ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวดูแก่ก่อนวัยแล้ว การสูบบุหรี่ยังเข้าไปทำลายสุขภาพและเป็นตัวการในการสร้างสารอนุมูลอิสระออกมาทำลายเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงการออกกำลังกายและการรับประทานอาหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนสามารถส่งผลต่อการทำงานของยีนในร่างกายคนเราได้ทั้งสิ้น และอีกประการที่สำคัญคือแสงแดด ที่ไม่เพียงแต่จะทำลายโปรตีนบนผิวเท่านั้น แสงแดดยังเข้าไปทำลายถึงระดับเซลล์และส่งผลต่อการแสดงออกของยีน โดยหากเปรียบเทียบเม็ดสีผิวที่ได้รับผลกระทบจากแสงแดดระหว่างคนเอเชียกับคนยุโรปจะพบว่าคนเอเชียจะมีเม็ดสีที่แข็งแรงกว่าจึงทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์กว่า แต่จะเกิดฝ้า กระได้ง่ายกว่า ส่วนคนในโซนยุโรป ปัญหาที่พบคือริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่น
กลุ่มอาหารที่เข้าไปช่วยบำรุงการทำงานของยีน
อาหารเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การทำงานของยีนคงประสิทธิภาพดีดังนั้นเราจึงควรบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้หลากสี เช่น สีส้ม สีแดง สีเหลือง สีเขียว สีเขียวแก่ อย่าเน้นไปที่สีใดสีหนึ่ง เพียงอย่างเดียว เพราะทุกอย่างมีประโยชน์หมด มีการค้นพบว่า คนที่ทานผักผลไม้สม่ำเสมอจะมีผิวที่ดูชุ่มชื้นและเต่งตึงมากกว่าคนที่ไม่ได้ทาน นอกจากนี้เราไม่ควรบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบที่มีน้ำตาลมากเกินไปเพราะน้ำตาลจะเข้าไปทำลายเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ และลดประสิทธิภาพการทำงานของยีน รวมถึงการทานเนื้อสัตว์หรืออาหารจานด่วนก็ส่งผลให้ผิวพรรณและสุขภาพดูแก่ก่อนวัยและมีเปอร์เซ็นต์การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่า สารสำคัญในชาเขียวช่วยเร่งการทำงานของอีลาสติน เสริมสร้างโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ยกกระชับ และเต่งตึง รวมถึงสารแคโรทีนอยด์ที่อยู่ในพืชผักผลไม้หลากสี ช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้
ล็อกผิวให้สวยสมวัย
สิ่งที่ผู้มีปัญหาเรื่องผิวพรรณกังวลหลักๆ จะมีอยู่ประมาณ 5-6 ประการ ซึ่งผู้หญิงสมัยใหม่ก็รู้จักดูแลตัวเองอยู่แล้ว จากการสอบถามบรรดาแพทย์ท่านอื่นๆ ทำให้ทราบว่า สภาพผิวที่จัดว่าเป็นผิวที่สวยคือ
- ต้องไม่มีริ้วรอยเหี่ยวย่น
- ผิวดูกระจ่างสดใส สีผิวสม่ำเสมอกัน ไม่มีจุดด่างดำ
- ขนาดรูขุมขนที่ไม่ใหญ่ ดูเล็กละเอียด เรียบเนียน
- ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น ไม่แห้งหรือมันเกินไป
บางครั้งเราก็ไม่ทันสังเกตสัญญาณความเสื่อมชราที่ผิวกาย จนปัญหาเกิดมากซึ่งบางครั้งก็ยากที่จะดูแลให้กลับเป็นเหมือนเดิมปัญหาความเสื่อมชราที่ผิวกายเกิดจากโปรตีนสำคัญที่เป็นโครงสร้างผิวถูกทำลายทำให้เสื่อม ทำให้เกิดอะไรบ้าง
- ผิวไม่เรียบ เป็นคลื่น หรือที่รู้จักดีคือเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้ม (เพราะผิวไม่กระชับ หย่อนยาน และไขมันใต้ผิวดันผิวจนนูนนึ้น)
- สูญเสียความนุ่ม ความเรียบเนียน ของผิว ผิวดูไม่สดใส หยาบกร้าน
- ผิวไม่กระชับ หย่อนคล้อย ผิวใต้แขน หน้าท้องห้อยยาน
- ผิวแห้ง หมองคล้ำไม่สดใส
ถึงเวลาดูแลผิวกายปกป้องและย้อนวัยให้ผิว
ผิวกายที่ดูอ่อนเยาว์จะยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตัวเองไม่ว่าชายหรือหญิงการดูแลปกป้องอย่างถูกวิธีจะช่วยชะลอการเสื่อมชราให้ผิวกาย
- บำรุงผิวกายให้ชุ่มชื้น โดยอาบน้ำชำระล้างการด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีค่า PH ใกล้เคียงกับผิว และบำรุงด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว
- ปกป้องผิวจากแสงยูวี ด้วยการทาโลชั่นกันแดดทุกครั้งที่ผิวกายต้องสัมผัสกับแสงแดพดจัดๆ โดยตรง
- ส่งเสริมการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองด้วยการนวดอย่างถูกวิธี ช่วยให้เลือดนำส่งสารอาหารสู่เซลล์ผิวและขจัดของเสียจากผิวได้ดี
งานวิจัยพบว่าการใช้กระแสกัลวานิคทำให้เกิดการสั่นต่อเซลล์ผิว เพื่อกระตุ้นการไหลเวียน และขจัดของเสีย
ผลงานวิจัยยิ่งทำให้เข้าใจมากขึ้นว่า การดูแลร่างกาย ด้วยอาหารเพื่อการชะลอวัย การเสริมอาหาร หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตามปกติ ไม่อาจช่วยปกป้องไม่ให้เกิดความแก่ของผิวได้ทั้งหมด เพราะต้นเหตุของการแก่ที่เกิดจากการแสดงออกของยีนที่เปลี่ยนแปลงไป ยังคงเกิดขึ้นและถูกกระตุ้นให้เกิดด้วยปัจจัยทั้งภายใน ภายนอก
สารสำคัญจากเอจล็อคเทคโนโลยี จะทำงานโดยช่วยปรับการแสดงออกของกลุ่มยีนความอ่อนเยาว์ที่เกี่ยวกับการไหลเวียนของเหลวในร่างกาย โครงสร้างผิว ความชุ่มชื้น การเผาผลาญไขมัน ผลที่ได้คือความอ่อนเยาว์ของผิวกายอย่างที่พึงพอใจ
เอจล็อค เทคโนโลยี
ล็อคผิวให้แลดูอ่อนเยาว์ ตราบนานเท่านาน โดย ดร. โจ แชง กล่าวไว้ว่า "เอจล็อค คือเทคโนโลยีที่มหัศจรรย์ที่สุด เท่าที่ผมเคยประสบในการทำงานมันเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่ออกแบบมาให้ย้อนกลับการทำงาน ของกลุ่มยีนแห่งความอ่อนเยาว์เทคโนโลยีนี้ต้องใช้เวลากว่า 30 ปี ในการทำความเข้าใจการทำงานที่ซับซ้อนของยีน เทคโนโลยี เอจล็อค คือความสำเร็จที่คิดค้นขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง สถาบันวิจัยยีนส์ ไลฟ์ เจน และมหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ด"
จุดเด่น
- เทคโนโลยีเอจล็อค ตรงเข้าจัดการกับต้นตอของจุดกำเนิดของริ้วรอยแห่งวัย ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ และลดปัญหาผิวที่มองเห็นได้
- เอจล็อค ทรานส์ฟอร์เมชั่น ส่งผ่านประโยชน์ของสารสำคัญในการต่อต้านความเสื่อมชราเข้าสู่ผิว และได้รับการพิสูจน์ทางคลีนิคแล้วว่าสารเอจล็อคสามารถปรับการแสดงออกของยีน เพื่อประสิทธิภาพ ต้านความชราและจัดการสัญญาณความร่วงโรยแห่งวัยที่ต้นเหตุได้ครอบคลุมทั้ง 8 ประการ
- โครงสร้างผิวที่อ่อนเยาว์ด้วยเทคโนโลยี สารสิทธิบัตร ที่จะเข้าไปกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนและลดการผลิต MMP (MMP คือตัวทำลายโครงสร้างผิว)
- ความเรียบเนียนของผิว กระตุ้นให้เซลล์ผิวเรียบเนียนและนุ่มนวลขึ้น จนคุณรู้สึกได้
- ความสม่ำเสมอของสีผิว ช่วยลดรอยแดงต่างๆ ความหมองคล้ำและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ เพื่อผิวที่ดูเนียบนุ่ม แลดูอ่อนเยาว์
- ลดริ้วรอยลึกและริ้วรอยตื้นที่สังเกตได้เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว
- ด้วยเทคโนโลยีเพื่อผิวที่กระจ่างใส
- กระชับรูขุมขน ย้อนวัยผิวสู่ความอ่อนเยาว์
- ลดจุดด่างดำ ด้วยเทคโนโลยี เพื่อผิวที่กระจ่างใสจะเข้าไปขัดขวางกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ไม่ต้องการอันเป็นต้นเหตุการเกิดจุดด่างดำของผิว
- เพิ่มความชุ่มชื้น โดยเข้าไปกระตุ้นกรดไฮยาลูโรนิค มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่พบตามธรรมชาติของผิว
จะมุ่งเน้นการส่งเสริมการแสดงออกที่มีสุขภาพดีของยีนในไมโตคอนเดรีย ด้วยหลักการง่ายๆ คือถ้าหากเรานั้นสามารถรักษาประสิทธิภาพการทำหน้าที่ของไมโตคอนเดรียได้ เราก็สามารถรักษาความอ่อนเยาว์และพลังความอ่อนเยาว์ที่แท้จริงไว้ได้เช่นกัน
เรียกพลังความอ่อนเยาว์ในตัวคุณ
ในการรักษาความอ่อนเยาว์จะไม่ได้เป็นแค่ความฝันอีกต่อไป เพราะด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผสานเทคโนโลยเอจล็อคของ นู สกิน ที่ช่วยปรับความอ่อนเยาว์ทั้ง 3 มิติที่สัมพันธ์กัน ได้แก่สุขภาพทางร่างกาย ความเฉียบคมทางความคิด และสุขภาพทางเพศ โดยที่เทคโนโลยีเอจล็อค จะมุ่งไปที่การส่งเสริมการทำงานของยีนส์ความอ่อนเยาว์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความเสื่อมชรา เพื่อทำให้คุณเสมือนย้อนวัยกลับคืนสู่ความอ่อนเยาว์อีกครั้ง
จุดเด่นของเทคโนโลยีเอจล็อคที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง
- มุ่งเน้นส่งเสริมสุขภาพของยีนที่เกี่ยวกับความอ่อนเยาว์
- ดูแลส่วนสำคัญที่เกี่ยวกับควยามอ่อนเยาว์ไม่เพียงแค่ 1 หรือ 2 ประการ ได้มากถึง 3 ประการ (ร่างกาย / ความคิด (สมอง) / สุขภาพทางเพศ)
- ยกระดับพลังขั้นพื้นฐานเพื่อการนำไปใช้ได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่เกิดปัญหาการลดระดับขึ้นๆ ลงๆ ของพลังงาน เหมือนเวลารับประทานสารกระตุ้นหรือรับน้ำตาลในปริมาณสูง
- สูตรเฉพาะที่มีสิทธิบัตรยืนยันประสิทธิภาพของการรวมของสารสำคัญในสูตร
จากการสำรวจพบว่า 90% ของผู้บริโภคที่ได้รับประทานผลิตภัณฑ์จากเทคโนโลยีเอจล็อค จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ความอ่อนเพลีย เหนื่อยล้าลดลง หรือรู้สึกถึงความอ่อนเพลียเหนื่อยล้ามากขึ้นเมื่อหยุดรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
สัญญาณแรกของความเสื่อมชรา
เมื่อเราอายุมากขึ้น ความสามารถของร่างกายเพื่อสร้างพลังงาน หรือการนำพลังงานมาใช้จะลดลง เริ่มมีการสูญเสียพลังความอ่อนเยาว์ นับเป็นหนึ่งในสัญญาณความเสื่อมชราที่เกิดขึ้นเป็นอันดับแรกๆ ที่หลายคนรู้สึกได้ เมื่ออายุย่างเข้าสู่วัย 30 ปีกลางๆ หรือปลายๆ คนส่วนใหญ่ จะพบว่าพลังความอ่อนเยาว์ในช่วงวัยหนุ่มสาวจะลดลง บางครั้งอาจเกิดขึ้นก่อนที่ริ้วรอยความเหี่ยวย่นจะปรากฎด้วยซ้ำ โดยการลดลงของพลังความอ่อนเยาว์นี้ จะรวมไว้ทั้ง 3 ประการ คือทางร่างกาย ทางความคิด และสุขภาพทางเพศ ทั้งหมดนี้ เป็นสัญญาณเตื่อนว่าตอนนี้กำลังเข้าสู่วัยชราแล้วนั่นเอง
การศึกษาแสดงว่า
- 85% ของผู้บริโภคมักกังวลเกี่ยวกับระดับพลังงานและความสดชื่นของร่างกาย
- คนในช่วงอายุ 30-60 ปี มักมีประสบการณ์ว่าความสามารถในการจดจ่อต่อสิ่งหนึ่งหรือความมีสมาธิลดลง 40%
- เมื่ออายุมากขึ้นความต้องการทางเพศจะลดลง 66% ในผู้หญิง และลดลง 37% ในผู้ชาย
INNOVATIVE APPROACH
ลึกลงไปในเซลล์ของเราจะมีอวัยวะเล็กๆ อยู่อวัยวะหนึ่ง เรียกว่า ไมโตคอนเดรีย โดยจะทำหน้าที่เสมือนโรงงานผลิตพลังงานให้เซลล์และร่างกาย โดยไมโตคอนเดรียจะเป็นเหมือนแหล่งสำคัญของพลังความอ่อนเยาว์ ซึ่งพบมากในเซลล์ของอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง ได้แก่ สมอง หัวใจ และกล้ามเนื้อ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานและจำนวนของไมโตคอนเดรียจะลดลง ทำให้การสร้างพลังงานไม่สามารถตอบสนองความต้องการของร่างกายได้ เทคโนโลยีเอจล็อค เป็นเทคโนโลยีที่สามารถเข้าถึงโดยกำหนดต้นกำเนิดของพลังความอ่อนเยาว์ ที่สามารถส่งเสริมให้เกิดผลทางบวก
กลุ่มยีนส์อ่อนเยาว์ของไมโตคอนเดรียและพลังความอ่อนเยาว์
ด้วยความร่วมือกับสถาบันวิจัยชั้นนำ - ไลฟ์เจน เทคโนโลยี เราได้กำหนดกลุ่มยีนส์ ความอ่อนเยาว์ และจากงานวิจัยทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะกำหนดและจัดระเบียบกลุ่มยีนส์ความอ่อนเยาว์ และจากงานวิจัยทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะกำหนดและจัดระเบียนกลุ่มยีนส์ ความอ่อนเยาว์ของไมโตคอนเดรีย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแสดงออกในรูปแบบดังในช่วงวัยหนุ่มสาวให้มากที่สุด
กลุ่มยีนส์ความอ่อนเยาว์ของไมโตคอนเดรียประกอบด้วยยีน 52 ยีนส์ที่เกี่ยวกับพลังความอ่อนเยาว์ เมื่อเราอายุมากขึ้น รูปแบบการทำงานของกลุ่มยีนส์เหล่านี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้เราสูญเสียพลังความอ่อนเยาว์นี้ในการทดสอบทางคลีนิควิทยาศาตร์ของเอจล็อคจัดระเบียบยีนส์ได้ 92% ของกลุ่มยีนส์ความอ่อนเยาว์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแสดงออกของยีนส์ ในด้านความอ่อนเยาว์มากขึ้น
คำอธิบายรูป
แผนผังเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการแสดงออกของยีนส์ใน 3 กลุ่มจากผลการทดสอบด้วยหนึ่งสารสำคัญที่ใช้ในเทคโนโลยีเอจล็อค
แถวที่ 1 - ยีนส์อ่อนเยาว์
แถวที่ 2 - ยีนส์ชรา
แถวที่ 3 ยีนส์ชราที่ได้รับเทคโนโลยีเอจล็อค
ในแต่ละแถวแสดงถึงยีนส์ 52 ยีนส์ที่เป็นกลุ่มยีนส์ความอ่อนเยาว์ของไมโตคอนเดรียแถวที่ 1 และ 2 แสดงแต่ละยีนของทั้ง 52 ยีนส์ ที่บางยีนส์ก็ทำงานน้อยลง บางยีนส์ก็ทำงานมากขึ้นในขบวนการเสื่อมชรา ในแถวที่ 3 กลุ่มยีนส์ความอ่อนเยาว์ที่ได้รับเทคโนโลยีเอจล็อคเกิดการจัดระเบียบใหม่เพื่อแสดงออกให้ใกล้เคียงกับยีนส์อ่อนเยาว์ในแถวที่ 1